คำสนธิ
คำสนธิ
คำสนธิในภาษาไทยหมายถึงคำที่มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต มาเชื่อมต่อกัน ทำให้เสียงพยางค์หลังของคำแรกกลมกลืนกันกับเสียงพยางค์แรกของคำหลัง
สนธิมี 3 ลักษณะ คือ
1. สระสนธิ 2. พยัญชนะสนธิ 3. นิคหิตสนธิ ๑. สระสนธิ คือการกลมกลืนคำด้วยเสียงสระ เช่น วิทย+อาลัย = วิทยาลัย พุทธ+อานุภาพ = พุทธานุภาพ มหา+อรรณพ = มหรรณพ นาค+อินทร์ = นาคินทร์ มัคค+อุเทศก์ = มัคคุเทศก์ พุทธ+โอวาท = พุทโธวาท รังสี+โอภาส = รังสิโยภาส ธนู+อาคม = ธันวาคม ๒. พยัญชนะสนธิ เป็นการกลมกลืนเสียงระหว่างพยัญชนะกับพยัญชนะ ซึ่งไม่ค่อยมีใช้ในภาษาไทย เช่น รหสฺ + ฐาน = รโหฐาน มนสฺ + ภาว = มโนภาว (มโนภาพ) ทุสฺ + ชน = ทุรชน นิสฺ + ภย = นิรภัย ๓. นฤคหิตสนธิ ได้แก่การเชื่อมคำที่ขึ้นต้นด้วยนฤคหิตหรือพยางค์ท้ายของคำหน้าเป็น นฤคหิต กับคำอื่นๆ เช่น สํ + อุทัย = สมุทัย สํ + อาคม = สมาคม สํ + ขาร = สังขาร สํ + คม = สังคม สํ + หาร = สังหาร สํ + วร = สังวร หลักการสังเกต ๑. คำสนธิต้องเป็นคำบาลี สันสกฤตเท่านั้น ๒. เมื่อนำคำมาสนธิกันแล้ว จะกลายเป็นคำเดียว และจะต้องแปลจากคำหลังมาคำหน้า ๓. คำที่จะนำมาสนธิกัน จะต้องมีทั้งสระหน้าและสระหลัง ๔. เมื่อสนธิแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงพยัญชนะ สระ หรือนิคหิตที่เชื่อมเสมอ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น